วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2551

อย่าให้คนไทยอย่างเราห่างไกลความสุข

ทุกๆวันนี้เพื่อนๆเคยลองถามตัวเองไหมคะว่ามีความสุขกับชีวิตของตัวเองมากแค่ไหน เชื่อว่ามีหลายคนคงจะตอบว่าไม่มีความสุขเลยเนื่องมาจากปัจจัยหลายอย่าง และในตอนนี้ฉันจะมีวิธีการส่งเสริมสุขภาพจิตเพื่อช่วยแก้ไขให้ไม่มากก็น้อย

  1. อย่าปล่อยให้ใจและกายย่ำแย่ มีคนจำนวนมากที่ไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาได้ เมื่อเกิดปัญหาอย่าเพิ่งมองว่าทางออกมืดมน ควรพยายามขอความช่วยเหลือจากคนที่ใกล้ชิดสนิทสนมไว้ก่อน แต่ถ้าเป็นคนที่เก็บตัว มีเพื่อนน้อย ก็อาจจะเป็นคนเสียเปรียบหน่อย แต่อย่างไรก็ตามแม้ไม่มีใครให้ปรึกษาก็ยังสามารถเดินเข้ามาปรึกษากับบุคลากรทางด้านสุขภาพจิตได้หลายช่องทาง
  2. หากคิดจะแก้ให้แก้ตรงสาเหตุ เมื่อพบว่าตนเองมีปัญหาด้านสุขภาพจิต ทำให้ชีวิตขาดความสุข การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุบางอย่างอาจช่วยบรรเทาความทุกข์ได้บ้าง เช่น วิธีการผ่อนคลายความเครียดทั่วๆไป หากมีความทุกข์ที่รุนแรงมากขึ้นแล้วนั้น หนทางที่สามารถแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือการบำบัดจิตใจ นอกจากนี้การยึดหลักศาสนา เช่น อริยสัจ 4 ที่เน้นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุแห่งทุกข์คงจะดีที่สุด
  3. รู้จักแต่งเติมสีสันให้แก่ชีวิตบ้าง แม้การใช้ชีวิตที่ราบเรียบเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน อะไรที่ราบเรียบจนเกินไปก็อาจทำให้ขาดรสชาติไปบ้าง ควรหากิจกรรมที่ทำให้เกิดความกระชุ่มกระชวย โดยที่ตนเองและคนรอบข้างไม่เดือดร้อน
  4. อย่าให้ความสามัคคีถูกทำลาย หากเกิดปัญหาทางด้านสุขภาพจิต เช่น ความเครียด ความเชื่อที่มักจะถูกครอบงำไปในทางที่ผิด การปักใจเชื่อในเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างที่ไม่สามารถจะยืดหยุ่นความคิดได้จะนำไปสู่ความแตกสามัคคีในที่สุด เมื่อสังคมแย่ คนในสังคมก็หาความสุขมิได้ ทางที่ดีควรเริ่มฝึกตั้งแต่เด็กๆ และหัดให้มองโลกในแง่มุมที่หลากหลาย การยอมรับและให้อภัยในความคิดเห็นที่แตกต่างเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
  5. ร่วมกันปลูกฝังความคิดใหม่ๆ แก้ไขความคิดเดิมๆให้หมดไป โดยเฉพาะค่านิยมที่บั่นทอนสุขภาพจิตที่ดี เช่น การมองว่าการบำบัดรักษาจิตใจเป็นเรื่องน่ารังเกียจหรือเรื่องน่าอับอาย การรณรงค์ให้เกิดการยอมรับผู้ที่เคยมีปัญหาสุขภาพจิตหรือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตอยู่ว่าเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และที่สำคัญคือ การให้ความรู้กับสังคมเพื่อให้เกิดความเข้าใจและยอมรับมากขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น