วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ผลงานของฉินซือหวองตี้ 3




กำแพงหมื่นลี้ ในสมัยจ้านกว๋อ ประชาชนที่เร่ร่อนอยู่ตามที่ราบกว้างใหญ่ทางเหนือที่ยังชีพด้วยการเลี้ยงสัตว์ ที่ชาวจีนเรียกว่าซ่งหนู ช่ำชองในการรบบนหลังม้า มักยกกำลังกันมารุกรานปล้นสะดมทางพรมแดนด้านเหนือของรัฐฉิน จ้าวและเอี้ยนซึ่งทำให้รัฐเหล่านี้ ต้องสูญเสียชีวิตผู้คนและทรัพย์สินอยู่เสมอ เจ้าผู้ครองรัฐฉิน, จ้าวและเอี้ยนจึงได้สร้างกำแพงขึ้นตามบริเวณชายแดนของรัฐตนเพื่อเป็นปราการป้องกันการรุกรานของพวกซ่งหนู หลังจากรวบรวมรัฐต่างๆเข้าเป็นอาณาจักรเดียวกันแล้ว ฉินซือหวองตี้จึงได้สร้างกำแพงเชื่อมต่อระหว่างรัฐทั้งสาม แล้วขยายออกไปทั้งทางตะวันตกและตะวันออก จากหลินเตา (หมินเสี้ยนในมณฑลกานสูปัจจุบัน) จนถึงเหลียวตงทางตะวันออกเป็นระยะทางราว 6,350 กิโลเมตร เรียกกันว่า “ฟ่านหลี่ฉางเฉิง” หรือกำแพงหมื่นลี้ ซึ่งเป็นสิ่งมหัศจรรย์สิ่งหนึ่งของโลก กำแพงนี้แม่ทัพเหมิงเถียนเป็นผู้รับบัญชาสร้างขึ้นเมื่อปีที่ 214 ก่อน ค.ศ. หลังจากได้ยกกำลังทหาร 300,000 คนไปปราบปรามพวกซ่งหนูจนประสบชัยชนะเมื่อปีที่ 215 ก่อน ค.ศ.

การสร้างกำแพงหมื่นลี้นี้ต้องสิ้นเปลืองชีวิตผู้คนไปเป็นจำนวนมาก ประมาณว่า คนงานที่ถูกเกณฑ์และพวกนักโทษที่ลงแรงสร้างกำแพงโดยถูกบังคับมีทั้งสิ้นราว 300,000 คน ความทุรกันดารของภูมิประเทศและการก่อสร้างในสมัยเมื่อสองพันกว่าปีก่อนที่ต้องใช้แต่กำลังคนถมลงไป ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก จนชาวจีนสมัยนั้นพูดกันแต่ว่า คนตายเพราะสร้างกำแพงหมื่นลี้มีจำนวนเป็นล้าน ความจริง กำแพงนี้ ถ้ามีกำลังทหารประจำการอยู่ครบถ้วนตามช่วงระยะของกำแพงก็นับว่า เป็นปราการที่ใช้ได้ผลในการป้องกันการรุกรานของพวกซ่งหนูในสมัยโบราณ หากแต่ระยะทางที่ยาวไกลจนทำให้ไม่อาจใช้กำลังทหารประจำการได้ครบตามช่วงระยะที่ได้สร้างไว้บนกำแพงเพราะต้องสิ้นเปลืองกำลังคนเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม แม้ว่า กำแพงหมื่นลี้จะมีส่วนป้องกันการรุกรานของพวกซ่งหนูตลอดจนชนเผ่าเร่ร่อนอื่นๆทางเหนือในอนาคต ผลที่ได้แน่ๆก็คือ เป็นการแบ่งเขตแดนระหว่างประชากรที่ประกอบการเกษตรชาวจีนกับชีวิตพวกเร่ร่อนเลี้ยงสัตว์ออกจากกัน

ไม่มีความคิดเห็น: